หน้าแรก » 3 ยาแก้ปวด เลือกใช้ยังไงให้ถูกอาการ

3 ยาแก้ปวด เลือกใช้ยังไงให้ถูกอาการ

เวลาเกิดอาการไข้ ปวดหัว ปวดตามเนื้อตัวตั้งแต่กล้ามเนื้อ ข้อต่อ ลามไปจนถึงกระดูก คุณมักเลือกใช้ยาแก้ปวดตัวไหนกันบ้างคะ

วันนี้ kdms มีข้อสังเกตลักษณะอาการปวดที่แตกต่างกัน ที่จะช่วยให้คุณเลือกยาให้ถูกขนานและกินได้ถูกต้อง เพื่อแก้ต้นตอของอาการปวดได้อย่างถูกจุดค่ะ

ยาพาราเซตามอล (Paracetamol)

ยาพาราเซตามอลออกฤทธิ์บรรเทาอาการปวดได้ในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง เป็นยาสามัญประจำบ้านที่พวกเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มักเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ผุดขึ้นมาในใจของผู้ป่วยส่วนใหญ่เวลาปวดหัว มีไข้ และครั่นเนื้อครั่นตัว

ข้อควรระวัง

  • ห้ามกินยากันไว้ก่อนจะมีไข้
  • ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลร่วมด้วย
  • ห้ามใช้ยาเกินขนาด ผู้ใหญ่ควรกินเว้นห่างกันทุกๆ 4 ชม. ในปริมาณ 10-15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และไม่เกิน 4,000 มิลลิกรัม หรือ 8 เม็ดต่อวัน
  • ห้ามใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานเกิน 5 วัน ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์

ผลข้างเคียงและอาการแพ้ยา

  • หากมีภาวะการทำงานของตับผิดปกติ ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเสมอ
  • ห้ามใช้ยากับคนที่แพ้ยาพาราเซตามอลเด็ดขาด อาการแพ้ยา ได้แก่ ผื่นขึ้น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก
  • หากใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาดจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร เหงื่อออก ถ้ามีอาการรุนแรงอาจมีอาการแสดงของภาวะตับวายเจาะเลือดพบว่ามีเอมไซม์ที่แสดงถึงการบาดเจ็บของตับ  ซึม สับสน เสียชีวิตได้

ยาคลายกล้ามเนื้อ (Muscle Relaxant)

ยากลุ่มนี้เป็นยาที่ต้องจ่ายโดยแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น ออกฤทธิ์ช่วยลดการตึงตัว หดเกร็ง กล้ามเนื้อกระตุก หรือตามภาษาชาวบ้านเรียกรวมๆ ว่าอาการเส้นตึง เนื่องจากเวลาให้หมอนวดแผนโบราณจับเส้นกดจุดจะสัมผัสได้ว่ากล้ามเนื้อแข็งตึงและหดเกร็งนั่นเอง

มักพบบ่อยในคนวัยทำงานที่ใช้งานกล้ามเนื้ออย่างหนัก ใช้งานผิดท่า หรืออยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานานๆ จึงมีอาการปวดไหล่ ปวดคอ ปวดหลัง และรู้สึกช้ำไปหมดทั้งตัว จนต้องใช้ยาคลายกล้ามเนื้อช่วยบรรเทาอาการปวด สามารถช่วยลดปวดในระดับที่มีความรุนแรงน้อยถึงปานกลางที่เกิดจากการตึงตัวของกล้ามเนื้อเท่านั้น  แต่ไม่สามารถลดปวดที่เกิดจากสาเหตุอื่นได้  โดยมากมักใช้ในอาการปวดกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน เมื่ออาการดีขึ้นแล้วควรหยุดใช้ยาทันที และไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ

ข้อควรระวัง

  • หลังกินยา ห้ามทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง ควบคุมเครื่องจักร  หรือขับขี่ยานพาหนะ เพราะยากลุ่มนี้ทำให้ง่วงและอาจเผลอหลับใน  ทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างการ ทำงานได้
  • ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง

ผลข้างเคียงและอาการแพ้ยา

  • มึนงงและง่วงซึม
  • ปากและคอแห้ง
  • ท้องผูก

ยาแก้อักเสบ (NSAID, Non-steroidal anti inflammatory)

ยากลุ่มนี้เป็นยาที่ต้องจ่ายโดยแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น ช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อในระดับปานกลางถึงรุนแรง ออกฤทธิ์ลดการอักเสบของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย หลังเกิดอุบัติเหตุมีแผลฟกช้ำ ปวดบวม หรืออาการเส้นเอ็นอักเสบ ข้ออักเสบ หรือข้อเสื่อม และยังสามารถใช้ลดไข้ แก้ปวดศีรษะ และอาการปวดประจำเดือนได้อีกด้วย

ข้อควรระวัง

  • ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์
  • ห้ามใช้ในผู้ป่วยโรคกระเพาะ หรือผู้มีแผลในระบบทางเดินอาหาร
  • ห้ามกิน ‘ยาฆ่าเชื้อ’ (Antibiotic) แทน ‘ยาแก้อักเสบ’ เนื่องจากไม่ใช่ตัวยาเดียวกัน แต่คนมักสับสนจากชื่อ ที่จริงแล้วยาฆ่าเชื้อเป็น ‘ยาปฏิชีวนะ’ ใช้สำหรับฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไม่สามารถยับยั้งอาการอักเสบของเอ็น ข้อต่อ กล้ามเนื้อได้ และยาฆ่าเชื้อไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อเพราะจะเกิดอาการดื้อยาได้ กลับกันก็ไม่ควรกินยาแก้อักเสบแทนยาฆ่าเชื้อเช่นกัน
  • ห้ามใช้ในผู้ป่วยโรคหัวใจ หรือผู้มีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ อาจใช้ได้ในขนาดต่ำและระยะเวลาสั้นๆ โดยอยู่ในการควบคุมของแพทย์เท่านั้น
  • ห้ามใช้ในผู้ป่วยโรคไต

ผลข้างเคียงและอาการแพ้ยา

  • มึนงง เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ หูอื้อ น้ำมูกไหล เจ็บคอ มักพบมากในผู้ที่กินยาเกินขนาด
  • เกิดผื่นคัน ผิวหนังลอก ใบหน้าและหนังตาบวมเป่งหากแพ้ยา
  • บวมน้ำ หรือน้ำหนักขึ้น
  • กัดกระเพาะ เกิดแผลและเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร
  • ปวดท้องเนื่องจากเกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินอาหาร 
  • คลื่นไส้ อาเจียนเป็นเลือด และถ่ายอุจจาระสีดำ
  • ค่าเอนไซม์ตับสูงขึ้น เกิดภาวะตับอักเสบ
  • การใช้ยากลุ่มนี้แม้ว่าในระยะสั้นก็อาจจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น และมีปัญหากับไต ดังนั้นคงต้องติดตามความดันและการทำงานของไต

Bài viết liên quan

อาการปวดข้อตามจุดต่างๆ บอกโรคใดได้บ้าง?  รู้ก่อน รักษาก่อน!

อาการปวดข้อตามจุดต่างๆ บอกโรคใดได้บ้าง? รู้ก่อน รักษาก่อน!

30/09/2021

แม้ว่าอาการปวดข้อจะสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่อาการปวดที่มาจากการได้รับบาดเจ็บตามบริเวณข้อต่อต่างๆ ของร่างกาย ที่ไม่ได้ดูร้ายแรงแต่อย่างใด ทำให้หลายคนเลือกที่ละเลย เมื่อตนเองรู้สึกปวดกระดูกตามข้อ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมือ ปวดนิ้ว ข้อเข่า ข้อเท้า และข้อต่ออื่นๆ แต่จริงๆ แล้วอาการปวดข้ออาจจะเป็นสัญญาณเตือนบางอย่าง ที่บ่งบอกว่าคุณกำลังเข้าข่ายหรือสุ่มเสี่ยงเป็นโรคแรงบางชนิด  บทความนี้จะช่วยให้อธิบายสาเหตุเพราะอะไร ที่ทำให้ปวดข้อ อาการปวดข้อตามจุดต่างๆ เป็นอย่างไร อาการปวดข้อแบบไหนที่ควรรีบไปพบแพทย์ แนวทางการป้องกัน และวิธีรักษาอาการปวดตามข้อ เพราะการปวดข้อสามารถเกิดได้กับทุกคน และอาจเป็นสัญญาณเตือนบางอย่างจากร่างกาย ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้าม ปวดข้อ (Joint Pain) อาการปวดข้อ หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Joint  Pain เป็นอาการที่สามารถพบได้กับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น ปวดตามข้อนิ้วมือ ข้อมือ ข้อเท้า และข้อเข่า โดยที่สาเหตุของอาการปวดข้อมีสาเหตุที่หลากหลายแตกต่างกันไป ผู้ป่วยบางรายที่มีอาการปวดข้ออาจจะมีสาเหตุมาจากโรคประจำตัวหรือโรคบางชนิด โดยโรคที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดข้อมีมากกว่า 100 โรค อาการปวดข้อส่วนใหญ่มักจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย ทำให้ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หรือ ไม่สามารถเล่นกีฬาและทำกิจกรรมบางชนิดได้ หรือรบกวนเวลาพักผ่อน เนื่องจากอาการปวดตามข้อตอนกลางคืน ทั้งนี้หากผู้ป่วยละเลยอาการปวดข้อตามร่างกายไม่พยายามรักษาหรือบรรเทาอาการ จะยิ่งทำให้อาการปวดแย่ลงเรื่อยๆ และอาจจะเป็นสาเหตุที่นำไปสู่โรคข้อเข่าเสื่อมในอนาคตได้ ปวดข้อเกิดบริเวณใดได้บ้าง อาการปวดข้อนับเป็นอาการที่พบได้บ่อย และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน […]

ยาถ่ายพยาธิ ตัวยาแบบใด เหมาะกับพยาธิแบบไหน

ยาถ่ายพยาธิ ตัวยาแบบใด เหมาะกับพยาธิแบบไหน

30/09/2021

ยาถ่ายพยาธิ ตัวยาแบบใด เหมาะกับพยาธิแบบไหน พยาธิ เป็นปรสิตที่สามารถอาศัยในร่างกายมนุษย์ นอกจากจะคอยแย่งอาหารแล้ว ยังทำให้เกิดการติดเชื้อในอวัยวะต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ได้ ซึ่งหากไม่ได้กำจัดพยาธิออกไปอย่างทันท่วงทีอาจเกิดอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต วิธีหนึ่งที่ใช้กำจัดพยาธิได้ไม่ยาก และไม่เสียค่าใช้จ่ายมากนัก ได้แก่ การรับประทานยาถ่ายพยาธิหรือฆ่าเชื้อพยาธิ ยาถ่ายพยาธิแบ่งกลุ่มตามชนิดของพยาธิ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่ม ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจะเลือกว่ากินยาถ่ายพยาธิ ยี่ห้อไหนดีให้เหมาะสม ดังนี้ กลุ่มยาถ่ายพยาธิตัวกลม (Nematode) ที่นิยมใช้ในการรักษา ได้แก่ ไอเวอร์เมกติน (Ivermectin) และ มีเบนดาโซล (Mebendazole) กลุ่มยาถ่ายพยาธิใบไม้ (Trematode) ได้แก่ พราซิเควนเทล (Praziquantel) กลุ่มยาถ่ายพยาธิตัวตืด (Cestode) ได้แก่ อัลเบนดาโซล (Albendazole) ข้อควรระวังที่สำคัญสำหรับสตรีมีครรรภ์ คือ ไม่แนะนำให้ใช้ยาถ่ายพยาธิเหล่านี้ในระหว่างตั้งครรภ์ ได้แก่ Albendazole, Ivermectin และ Mebendazole ข้อมูลยาถ่ายพยาธิแต่ละชนิด ข้อมูลเกี่ยวกับชื่อยา ข้อบ่งใช้ กลไกการออกฤทธิ์ ขนาดใช้ยา ผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์และข้อควรระวัง รวมถึงตัวอย่างยี่ห้อยาที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย ดูรายละเอียดได้ดังตาราง […]

0814724921